ทริปแรกของปี 2020 เราหนีไปเที่ยวพม่ามา สิ่งที่ดึงดูดใจให้เราตัดสินใจไปคือ ภาพบอลลูนลอยอยู่บนฟ้าเหนือเจดีย์นับไม่ถ้วนช่วงพระอาทิตย์ขึ้นที่เมืองพุกาม
จริงๆ แล้วพม่าเป็นประเทศที่เรายังไม่เคยไปเที่ยวเลยซักที ถึงแม้เราจะเคยไปชายแดนพม่ามาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่นั่นก็ไม่นับว่าเป็นการได้ไปรู้จักประเทศพม่าจริงๆ
เราคิดว่าพม่าก็คงคล้ายๆ กับบ้านเราเพราะเป็นประเทศในแทบ Southeast Asia เหมือนกัน และสถานที่ส่วนใหญ่ที่คนไปเที่ยวนั่นก็คือ วัด เราเลยไม่ได้คาดหวังกับทริปนี้มาซักเท่าไหร่เพราะคิดว่าการไปเที่ยววัดที่พม่าก็คงเหมือนๆ กับการไปที่วัดที่บ้านเรา แต่ทริปนี้กลับกลายเป็นทริปที่เราประทับใจมาก
ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเพื่อนบ้านนั้นสามารถทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ทำอะไรใหม่ๆ ได้เหมือนกัน ทริปนี้เราได้ถอดรองเท้าเดินขึ้นเขาไปดูจุดชมวิว ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารอบเมือง และได้กินอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต!
ถ้าอยากรู้แล้วว่าเราไปไหนมาบ้าง มาตามรอยการเดินทางท่องเที่ยวของเราในเมืองมัณฑะเลย์-พุกามกันได้เลย!
Itinerary
Day 1 Bangkok to Mandalay, Mandalay Hill
Day 2 Kuthodaw Pagoda, Sandamuni Pagoda, Shwenandaw Monastery
Day 3 Day tour to Mingun, Saggiang, Inn Wa, Amarapura (U-Bein Bridge)
Day 4 Zay Cho Market, Mandalay to Bagan
Day 5 Exploring Bagan
Day 6 Exploring Bagan
Day 1 Bangkok to Mandalay, Mandalay Hill
วันนี้ได้ถอดรองเท้าเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว Mandalay Hill ทั้งชีวิตไม่เคยมีประสบการณ์ถอดรองเท้าเดินนอกบ้านเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและเดินนานถึง 45 นาที เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ปวดเท้าและเท้าดำมาก แต่มันทำให้เราได้รู้ว่าฝ่าเท้าที่เนื้อหนาขนาดไหนก็ยังไม่แข็งแรงพอจะสู้กับปูนซีเมนต์ พื้นหญ้า พื้นทรายข้างนอกบ้านได้อยู่ดี ถ้าใครไม่อยากเดิน นั่งรถยาวๆ ขึ้นไปข้างบนเลยก็ได้นะ แต่จะพลาดความสวยงามของวัดระหว่างทางเดินขึ้นเขาเท่านั้นเอง :)
Day 2 Kuthodaw Pagoda, Sandamuni Pagoda, Shwenandaw Monastery
Kuthodaw Pagoda วัดที่มีพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก (world’s largest book) ตอนแรกที่หาข้อมูลก็งงว่าทำไมไม่เห็นรูปหนังสือเลยซักรูปเพราะเค้าใช้คำว่า book แต่มาร้องอ๋อตอนไปถึงที่แล้ว เพราะว่าพระไตรปิฎกที่ว่านั้นโดนสลักอยู่บนหินอ่อนและมีทั้งหมด 729 แผ่นและวางอยู่ในสถูปสีขาวแห่งนี้นี่เอง ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมากเพราะเป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปสวย มีมุมให้ถ่ายหลายมุมเลยแต่ต้องไปหากันเอาเอง
Sandamuni Pagoda
Shwenandaw Monastery ส่วนตัวฝ้ายประทับใจที่นี่มาก เพราะเป็นวัดที่ทำมาจากไม้สักและแกะสลักหมดเลย ตอนแรกที่ดูจากรูปก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอไปเห็นของจริงแล้วรู้สึกทึ่งว่าเค้าเก็บรักษาที่แห่งนี้ได้ยังไงไม่ให้ปลวกขึ้น ไม่ให้ไม้เปื่อย เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากๆ
Day 3 Day tour to Mingun, Saggiang, Inn Wa, Amarapura (U-Bein Bridge)
ฝ้ายเหมา private taxi ไปเที่ยวนอกเมืองมัณฑะเลย์ไป Mingun, Saggiang, Inn Wa, Amapura (4 สถานที่ในราคา 50,000 kyat) ที่ Mingun เราไปสิงกันอยู่ที่ Hsinbyume Pagoda อยู่นานมาก เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ iconic ของพม่าเลย เป็นวัดที่กว้างใหญ่และถ่ายรูปสวย โชคดีว่าวันนั้นมีทัวร์ถ่ายรูปจีนลงพอดีแล้วเค้ากำลังถ่ายรูปเณรกันอยู่เลยได้รูปมาฝากทุกคนกัน แต่วันนั้นฝนตก เลยไม่ค่อยได้รูปจากสถานที่อื่นๆ ซักเท่าไหร่ พอฝนหยุดตอนเย็น เลยได้ออกไปเก็บภาพ U-Bein Bridge มาฝากทุกคนในช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
Day 4 Zay Cho Market, Mandalay to Bagan
วันนี้เป็นวันชิลๆ ก่อนเดินทางไปเมืองพุกาม เลยไปเดินเล่นตรงตลาด Zay Cho หวังว่าจะไปหาของกินอร่อยๆ ที่นั่น แต่ปรากฏว่าตลาดนี้เป็นตลาดขายของใช้ในบ้านมากกว่า ไม่เห็นร้านอาหารเลยซักร้านในตลาดนี้ ก็เลยเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนไปเจอร้านอาหารข้างทาง แต่ปรากฏว่าอร่อยและถูกมาก
Day 5-6 Exploring Bagan
ความประทับใจหลักๆ ของทริปนี้คือการได้ขี่ e-bike หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรก และรู้สึกสนุกที่ได้ขี่ไปตามซอกซอยหาจุดสวยๆ ชมเมืองพุกามกันเองโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์
น้องก็พาไปที่ลับจริงๆ เงียบ สงบ ไม่ค่อยมีคน แต่บางที่ก็เป็นวัดที่เราตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แต่น้องก็ชี้มุมถ่ายรูปให้ พอทัวร์กับน้องเสร็จ น้องก็เอางานศิลป์ของน้องมาให้ดู แต่ปรากฏว่าราคาต่ำสุดคือ 35 USD ไม่ใช่ 35,000 kyat อย่างที่เรากับโบ๊ทเข้าใจ สุดท้ายเราก็อุดหนุนน้องกันอยู่ดี เราซื้อภาพ landscape ที่ราคามากกว่า 35 USD แต่ก็ไม่ได้เสียดายเพราะรู้สึกว่าเราพอใจกับสิ่งที่เราได้รับ แต่ฝ้ายอยากมาเขียนเตือนเพื่อนๆ สำหรับใครที่จะไป อย่าลืมถามหน่วยเงินก่อนตกลงจะได้ราคาตรงกับความคาดหวัง (แต่คิดว่าส่วนใหญ่คงพูดเป็น USD กันหมดแหละ)
ถึงตอนนี้พุกามจะปิดให้ปีนเจดีย์ไม่ได้แล้ว แต่เรายังมีโดรนบินถ่ายภาพ จริงๆ ที่นี่จะสวยสุดๆ ถ้าได้ยืนบนที่สูงเหนือระดับต้นไม้ เพราะจะเห็นเป็นทุ่งเจดีย์เล็กใหญ่ประปรายเต็มไปหมด ยิ่งถ้ามาในยามเช้าจะเห็นบอลลูนลอยเหนือฟ้าราวกับอยู่ในเทพนิยาย แต่ถ้าใครไม่มีโดรนก็ต้องให้คนพม่าพาไปมุมลับก็จะยังพอหาสถานที่ที่ดูวิวจากมุมสูงได้
สำหรับการบินโดรนที่นี่ซับซ้อนเล็กน้อย เนื่องจากว่าบางคนก็โดนยึดโดรนไว้ที่สนามบินเลยให้มาเอาตอนขากลับ แต่โชคดีที่เราไม่โดนยึด การบินโดรนที่นี่อาจจะฟังดูสับสนเล็กน้อย เพราะบางคนก็บอกให้แอบๆ เนื่องจากว่าถ้าตำรวจเจอก็จะมาจับได้ แต่มีอยู่วันนึงที่เราเห็นนักท่องเที่ยวคนนึงบินโดรนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ก็ไม่เห็นโดนว่าอะไร ก็เลยคิดว่าการบินโดรนที่นี่อาจจะต้องพิจารณาไตร่ตรองหน้างานกันเอง
ตอนเย็นมาถ่ายภาพ sunset กันต่อใกล้ๆ กับวัด Dhammayan Gyi ปิดทริปพุกามได้อย่างสวยงาม
วันแรกที่ขี่ออกมาในความมืด เพราะต้องการไปหาจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นก็มีหนุ่มพม่าขี่มอเตอร์ไซค์มาถามว่าให้เค้าพาไปจุดพระอาทิตย์ขึ้นมั้ย แต่เราปฏิเสธเค้าไป เพราะรู้สึกสนุกที่ได้หาจุดเอง ขี่ไปขี่มาก็แอบหลง หลงไปทางเล็กๆ แคบๆ ทรายๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเค้าไปกัน ขี่ไปก็ทรงตัวไปกลัวล้ม แล้วก็หลงไปเจอวัดไหนก็ไม่รู้เลยกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันนั้น
ช่วงสาย เจอหนุ่มพม่าอีกคนนึงมาบอกว่าจะพาไปดูสถานที่ลับสวยๆ เงียบๆ ไปปีนเจดีย์ที่ปีนได้ (ตอนนี้เจดีย์ใหญ่ๆ ที่พุกามห้ามปีนขึ้นไปชมวิวกันหมดแล้วเพราะมีคนตกลงมาตาย) และแลกกับการซื้องานศิลป์ของเค้า เราเลยถามไปว่าราคาต่ำสุดเท่าไหร่ เค้าบอก 35 เราคิดว่าเค้าหมายถึง 35 thousand kyat (35,000 kyat ~730 บาท) ก็เลยโอเคเลยให้หนุ่มพาไปเพราะเหลือเวลาอีกแค่วันเดียว บวกกับกลัวหามุมสวยๆ ไม่เจอ
Day 7 Bagan to Mandalay
จริงๆ วันนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่ เพราะนั่งรถบัสจากพุกามไปใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่โมงกว่าจะถึงมัณฑะเลย์ก็ตอนเย็นๆ ได้แต่หาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นและพักผ่อน
Day 8 Mandalay to Bangkok
เดินทางกลับแล้วจ้า เราซื้อของฝากเป็นขนมถั่วชื่อดังของพม่าที่สนามบินและแลกเงิน kyat ก่อนเข้าไปเช็คตม. เพราะข้างในไม่มีให้แลก (แต่ยังมีร้านขายของข้างในนะ)
ช่วงเวลาเดินทาง
3-10 มกราคม 2020
การเดินทางไปพม่า
บินตรงกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์โดย AirAsia
การเดินทางในประเทศ
นั่งรถบัส Ok Express เดินทางระหว่างมัณฑะเลย์และพุกาม
ใช้ Grab ตุ๊กตุ๊กและแท็กซี่ในเมืองมัณฑะเลย์
เช่า e-bike เที่ยวในเมืองพุกาม
ที่พัก
Kaung Hostel, Mandalay
Hotel Aurora, Mandalay
WeStay @ Boutique Hotel, New Bagan <<< แนะนำมาก พนักงานใจดี ยิ้มแย้มและช่วยเหลือดีสุดๆ
อาหาร
ส่วนใหญ่เป็นก๋วยเตี๋ยว บางเมนูคล้ายข้าวซอย คล้ายเกี๊ยมอี๋ คล้ายมาม่ารสหมูสับ สำหรับคนกินยากคิดว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะรสชาติใกล้เคียงบ้านเราพอสมควร
และเมนูส่วนใหญ่อีกอย่างหนึ่งคือแกง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอินเดีย แต่เครื่องแกงไม่หนักและไม่ข้นเท่าที่อินเดีย ร้านโปรดที่ฝ้ายกับโบ๊ทชอบที่สุดคือ ร้าน La Min Thit ที่พุกาม อร่อยทุกแกง ทั้งไก่ หมู และปลา
ยำใบชา (tea leaf salad) เมนูนี้ยังไงก็ต้องลอง หากินได้ทุกร้านแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมนูประจำชาติของพม่าเลย ฝ้ายชอบมากเพราะมีรสชาติเปรี้ยวๆ ขมๆ ของใบชา ผสมผสานกันกับความกรุบกรอบของถั่ว นี่ยังแอบสงสัยว่าทำไมเมนูนี้มีแค่ที่พม่าที่เดียว ไม่เคยเห็นจากที่ไหนเลย ใครเคยเห็นของประเทศอื่นบ้างมาบอกที :)
อาหารส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่เน้นแป้งจากข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว หรือแป้งโรตี
อากาศ
ช่วงที่เราไปเดือนมกราคมเป็นช่วงที่อากาศดีมาก ช่วงเช้าและกลางคืนจะหนาว พอแดดออกก็จะร้อนหน่อย แต่ไม่มีเหงื่อ ถ้าใครไปช่วงนี้อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย และถ้ามีแพลนว่าจะไปขี่ e-bike เหมือนเราอย่าลืมเตรียมเสื้อกันลมไปด้วยเช่นกัน
เงิน
แลกเงิน kyat ที่สนามบินได้เลย เรทดีมาก
10,000 kyat (จ๊าด) ~200 บาท
ค่าใช้จ่าย
ทริป 8 วัน ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ประมาณ 6,500 บาทต่อคน
ค่าอาหาร ~2,000 บาท
ค่าเดินทาง ~1,300 บาท
ค่าที่พัก ~2,000 บาท
ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ~900 บาท
อื่นๆ ~300 บาท
งบประมาณ
อาหาร ~5,000 kyat (฿150) ต่อมื้อ
ตุ๊กตุ๊ก ~2,000-3,000 kyat (฿60-90) ต่อเที่ยว แต่ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย อันนี้เป็นค่าเฉลี่ยจากการนั่งตุ๊กตุ๊กในมัณฑะเลย์
เช่า e-bike ~8,000-10,000 kyat (฿150-200) ต่อวัน
ที่พักราคาประหยัด ~฿600-1,000 ต่อคืน
ใครเคยไปเที่ยวพม่ามาแล้วเป็นยังไงกันบ้าง มาเล่าให้ฟังหน่อยน้า :)